วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กลอน ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้

ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้      
ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้     โปรดจงเข้าใจว่าทำไมถึงพร่ำบ่น
หากชีวิตฉันขาดเธอไปสักคน  ค่ารถยนต์ที่ต้องผ่อนเอาที่ใคร
หากฉันขาดเธอไปตายแน่ๆ   ฉันคงแย่ค่าบ้านเอาที่ไหน
หากชีวิตฉันขาดเธอไป แล้วต่อไปใครจะจ่ายให้ฉันกิน...อิอิอิ..(รักจัง)
โดย...Meeting – House

กลอน ลืมเสียเถิด

โปรดลืมเสีย
ลืมเถิดโปรดลืมฉัน  ว่าที่เคยยืมเงินกัน ไปวันก่อน
ที่ฉันเคยบอกว่าคืนแน่นอน รอไปก่อนและลืมเสียเรื่องเบี้ยเธอ
ลืมเถิดโปรดลืมฉัน โปรดลืมกันเรื่องวันเก่า
อย่าคิดถึง อย่ารำพึงเรื่องของเรา เรื่องเก่าอย่าเลยเราอย่าเว้าวอน
โปรดเถอะเธอโปรดลืมเสีย ว่าเงินเบี้ยที่เคยยืมยอดเท่าไหร่
โปรดลืมเสียว่าฉันเคยเอาไป  คิดเสียว่าความห่วงใยยังเหมือนเคย
โดย meeting house http://kaewprapa.blogspot.com/

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำท่วม กทม. แนวโน้ม

จากข่าว ที่แสดง http://youtu.be/J5foTwkl7Uw



แผนที่เส้นทางเสี่ยงน้ำท่วม กทม.
บอกเพื่อนด้วย ดูแบบชัด แล้วแชร์
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=252399181463633&set=a.213945711975647.46533.213937928643092&type=1&ref=nf

สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง แม้จะมีความพยายามในการรักษาพื้นที่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมน้อยที่สุด  ก็ยังคงน่าเป็นห่วงที่อาจมีเหตุการณ์คาดไม่ถึงนะคะ

โดย m

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คาถา(นินทา)บูชาเมียน้อย

คาถา(นินทา)บูชาเมียน้อย

รักเมียน้อยต้องส่งเสีย               อย่าให้เมียหลวงต้องสงสัย
รักเมียน้อยต้องคอยเอาใจ           อย่าให้ใครมาเอาใจเมียน้อย บ่อยแทนเรา
รักเมียน้อยต้องคอยแบ่งเวลา        อย่าให้เมียน้อยเปลี่ยวเอกาและว้าเหว่ใจ
รักเมียน้อยห้ามทำตัวอ่อนเพลีย      เพราะจะเสียหมดท่าว่าไม่ไหว
รักเมียน้อยต้องแอบพากันไปแบบว่องไว       เพราะหูตาคนมันไว ไปบอกเมีย
รักเมียน้อยต้องคอยส่งเสีย  ถ้าเธอไม่มีเบี้ยเธอต้องแอบไปหาเฮีย....(ตัว)คนใหม่
รักเมียน้อยอย่าให้เมียน้อยเสียน้ำตา          เพราะลีลาของเธอจะเสียไป
รักเมียน้อยต้องให้เกียรติ                 อย่าให้เธอต้องเครียดจะเสียท่าเร้าใจ
รักเมียน้อยท่านต้องคอยแต่เอาใจ  หากเธอน้อยใจบอกว่าไม่  ทำใจให้เสียอารมณ์
รักเมียน้อยอย่าให้เมียหลวงรู้   เมียหลวงอยู่    รู้เป็นไม่ได้
รักเมียน้อยต้องคอยเปลี่ยนท่าแบบท้าทาย ไม่อ่อนไหวพลิกกายแบบพื้นๆ เดี๋ยวเธอไม่ตื่นตัว
รักเมียน้อยต้องคอยหมั่นโทรหา    อย่าให้ผิดเวลาเป็นไม่ได้    
เพราะเมียน้อยของคุณอาจมีใคร ต้องใส่ใจ เอาให้บ่อย
หากให้เมียน้อยเธอคอย คุณเมียน้อยจะหา..ผัวน้อยมาใช้เอง
(นินทา หรือ บูชากันละเนี้ย)

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เมาแล้วขับ


ขอขอบคุณ เพลงประกอบกินตับ

ประกาศเตือนภัยพายุ

ประกาศเตือนภัย
"พายุ นาลแก”"
ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 04 ตุลาคม 2554

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.) พายุโซนร้อน นาลแกบริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 100 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 18.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 11.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ประกาศเตือนการใช้ถนนสายเอเชีย ผลจากน้ำท่วม

4 ตค. 2554 14:59 น.
ห้ามรถวิ่งถ.สายเอเชีย เกรงสะพานทรุด
พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบนถนนพหลโยธินหลักกิโลเมตร ที่ 640-641 สะพานห้วยแม่แหน เขตติดต่ออ.สบปราบ - อ.เถิน จ.ลำปาง หลังมีน้ำหลากท่วมสูงเกือบ 1 เมตร จึงต้องจัดกำลังตำรวจ สภ.เถิน และตำรวจทางหลวงลำปาง อำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจรโดยตั้งด่านประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้ที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าว ทำให้รถติดยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทั้งขาขึ้นขาล่อง
ล่าสุดนายสมเกียรติ ตันตระกูล นายอำเภอเถิน จ.ลำปาง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พร้อมสั่งห้ามรถบรรทุกและรถทุกชนิดที่มีน้ำหนักมาก สัญจรและข้ามสะพานดังกล่าวแล้ว หลังรับรายงานว่าคอสะพานอาจจะมีการทรุดตัว เนื่องจากคอสะพานและตัวสะพาน เกิดการสั่นตัวและมีเสียงขยับคล้ายกับสะพานกำลังจะเริ่มทรุดตัวและพังลงมา อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอเถิน จ.ลำปาง เร่งประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ที่ใช้รถต้องขับรถ อ้อมไปใช้ทาง อ.วังชิ้น จ.แพร่และ อ.เถิน- อ.ลี้จังหวัดลำพูน แทน

ขอบคุณภาพจาก


 

น้ำท่วม อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

ถนนสายเอเชีย อ.เถิน จ.ตาก
(4 ต.ค.) นายสมเกียรติ ตันตระกูล นายอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า แม่น้ำวังที่เพิ่มสูงเกินจุดวิกฤตนอกจากหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 500 หลังคาเรือน ใน 3 ตำบล สูงกว่า 1 เมตรแล้ว ยังส่งผลกระทบสะพาน 2 แห่ง บนถนนสายเอเชียลำปาง-ตาก หลักกิโลเมตรที่ 639 - 642 บ้านพัฒนา ม.6 ต.สบปราบ อ.สบปราบ และบ้านแม่เตี๊ยะ ต.แม่ถอด อ.เถิน คือ สะพานแม่แหน และสะพานห้วยเรือขว้าง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน
โดยรถที่วิ่งมาจากกรุงเทพมหานครมุ่งสู่ภาคเหนือตอนบน ต้องไปใช้เส้นทาง อ.เถิน - อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย แล้วไป จ.แพร่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ส่วนรถที่จะมาจาก จ.เชียงใหม่ ให้ไปใช้เส้นทาง อ.เถิน - อ.ลี้ จ.ลำพูน ล่าสุดสะพานห้วยเรือขว้างเริ่มทรุดตัวแล้วจากความแรงของกระแสน้ำ.-สำนักข่าวไทย


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก...ช่อง 9

น้ำท่วม ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง

4 ตค. 2554 10:18 น.

นางทองทิพย์ ปัญญาจันทร์ ปลัดเทศบาลตำบลนาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ต.นาแก้ว ได้รับผลกระทบจากน้ำหลากจากลำน้ำวัง น้ำแม่จางและน้ำแม่ต๋ำ ซึ่งได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ต.นาแก้ว เสียหายกว่า 2,000 ครัวเรือน ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 2 เมตร ส่วนหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ บ้านสบต๋ำและบ้านจอมปิง น้ำท่วมมิดรั้วบ้านของชาวบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อบต.นาแก้ว ได้นำเรือท้องแบนเข้าสำรวจความเสียหายและจะได้นำน้ำดื่มและถุงยังชีพ 2,000 ชุดเข้าช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป ส่วนที่แยก ต.นาแก้ว ซึ่งเป็นทางผ่านไป อ.เสริมงาม ถูกน้ำท่วมสูงทำให้รถสามารถผ่านไปได้ ส่งผลทำให้การชาวบ้าน อ.เสริมงามที่จะเข้าตัวเมืองลำปาง ถูกตัดขาดไม่สามารถเดินทางผ่านได้ ต้องใช้เส้นทางอื่นเช่นต้องออกทาง อ.ลี้ จ.ลำพูน หรือทางต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางแทน ซึ่งเป็นระยะทางไกลมาก
 
ที่หมู่บ้านนาแก้ว


 

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คาถาบูชาผัว

คาถาบูชาผัว

รักผัวต้องอดทน         ต้องเป็นคนเคารพผัว
รักผัวต้องเกรงกลัว      อย่าให้ผัวต้องเกรงใจ
รักผัวต้องรักเดียว       อย่าได้เที่ยวไปรักใคร
รักผัวต้องข่มใจ              แม้ผิดไปให้ยอมทน
รักผัวต้องยอมผัว       อย่าถือตัวจนเกินไป
รักผัวต้องฉับไว          ไม่ทันใจจะหมองมัว
รักผัวต้องหมั่นยิ้ม       หน้าจิ้มลิ้มชื่นใจผัว
รักผัวต้องแต่งตัว        อย่าให้ผัวต้องทำใจ
รักผัวต้องอภัย           ถึงอย่างไรก็เป็นผัว
รักผัวอย่าด่าผัว          ถือว่าผัวใหญ่กว่าใคร
มีผัวแล้วทุกข์ทน        ก็ให้บ่อยู่ในใจ
ชาติหน้ามีฉันใด         จงจำไว้อย่ามีผัว

คาถาบูชาชู้

คาถาบูชาชู้

เบื่อผัว ต้องเล่นชู้ อย่าให้รู้ ถึงผัวได้
เล่นชู้ ต้องไวไฟ อ่อยเข้าไว้ ไม่เสียแรง
รักชู้ ให้แนบเนียน อย่าผิดเพี้ยนให้ผัวเห็น
รักชู้ ต้องใจเย็น ร้อนใจเล่น จะเสียการ
รักชู้ ควรจะรู้ อย่าให้ชู้ ต้องคอยนาน
รักชู้ ต้องจัดสรร เพราะชู้นั้น สำคัญกว่า
รักชู้ รู้เวลา ชู้จะมา ผัวต้องไป
รักชู้ ต้องปั่นหัว อย่าให้ผัว ฉุกคิดได้
รักชู้ ต้องเอาใจ เหงาเมื่อไหร่ ต้องรีบมา
รักชู้ ต้องยอมชู้ ไม่งั้นชู้ จะชิ่งไป
รักชู้ ต้องปันใจ รักผัวให้ น้อยกว่าเดิม
รักชู้ ต้องหน้าตาย หลอกผัวได้ ไม่เคลือบแคลง
รักชู้ อย่าอ่อนแรง หมั่นพลิกแพลง ให้เร้าใจ
รักชู้ ต้องเข้มแข็ง ชู้เล่นแรง ต้องทนไหว
รักชู้ ต้องเข้าใจ เล่นแบบไหน ต้องรู้ทัน
รักชู้ ต้องแข็งแรง ต้องเหลือแรง เผื่อชู้มา
รักชู้ อย่าลีลา เมื่อชู้มา อย่าเล่นตัว
รักชู้ อย่าจู้จี้ ถ้าชู้หนี จะเสียศูนย์
รักชู้ ต้องทุ่มทุน คอยเกื้อหนุน และส่งเสีย
รักชู้ อย่าอ่อนเพลีย ชู้อาจเสีย อารมณ์ได้
รักชู้ อย่านอกใจ ชู้ของใคร ชู้ของมัน
รักชู้ ต้องใจกล้า หากผัวมา ซ่อนชู้ไว้
รักชู้ ต้องหัวไว ผัวจับได้ ตายแน่? เอย

คาถาบูชาเมีย

คาถาบูชาเมีย
รักเมียต้อง อดทน       ต้องเป็นคนเคารพเมีย
รักเมียต้องส่งเสีย        อย่าให้เมียต้องสงสัย
รักเมียต้องรักเดียว      อย่าได้เที่ยวไปรักใคร
รักเมียต้องทำใจ         ถึงอย่างไรเธอก็เมีย
รักเมียอย่าขี้เหล้า        ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย
รักเมียอย่าอ่อนเพลีย    คนรักเมียต้องเเข็งแรง
รักเมียอย่าเที่ยวดึก      จะเกิดคึกผิดสำแดง
รักเมียอย่ารุนแรง       ค่อย ๆ แซงอย่าขับไว
รักเมียต้องยอมเมีย     เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร
รักเมียต้องเข้าใจ        ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย
รักเมียอย่าเถียงเมีย     คำพูดเมียใหญ่กว่าใคร
มีเมียแล้วทุกข์ทน       ก็ให้บ่นอยู่ในใจ
ชาติหน้ามีฉันใด         จงจำไว้อย่ามีเมีย

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

กรมชลประทานประกาศเตือน

 
กรมชลประทานประกาศเตือนการพร่องน้ำออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กระทบพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา และพื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำป่าสักในเขตจังหวัดสระบุรีและพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เร่งพร่องน้ำในเขื่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำล้นเขื่อนเนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุของอ่าง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าการณ์ว่าในวันที่ 24-27 กันยายนนี้ จะมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนป่าสักเพิ่มขึ้น จึงต้องพร่องน้ำบางส่วนออกจากเขื่อนเตรียมรองรับน้ำที่จะไหลหลากลงมาสัปดาห์หน้า ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนลงมาในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสระบุรี มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 60-80 เซนติเมตร

ขณะที่วันนี้แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์มีปริมาณน้ำ 4,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที / ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท 3,706 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และไหลผ่านช่วงอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,098 ล้านลูกบาศก์ต่อวินาที ซึ่งทั้ง 3 จุดมีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูง



สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัย


ชื่อบัญชี "ครอบครัวข่าว 3 ช่วยผู้ประสบอุทกภัย 54"
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี พระราม 4 
บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 468-0-15727-1




เพิ่มคำอธิบายภาพ

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ปัญหาปากท้องชาวบ้านช่วงอุทกภัย


น้ำท่วม

จากข่าวที่ผู้เขียนได้นั่งดูรายการข่าวของช่อง3 ซึ่งรายงานเรื่องอุทกภัยหรือน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ค่อนข้างรุนแรง ทำให้รู้สึกหดหู่ใจมาก ชาวบ้านคงลำบากมากในการดำรงชีพในช่วงนี้ ทั้งในเรื่องห้องน้ำ ที่นอน อาหาร น้ำดื่ม ผู้เขียนอยากให้พี่น้งชาวไทยทุกคนร่วมใจกันในการช่วยเหลือ เท่าที่ทำได้ก็ร่วมกันบริจาคเงินร่วมกับภาครัฐหรือสื่อมวลชลที่ตัวกลางในการเชื่อมต่อความช่วยเหลือให้กับผู้ลำบากในอุทกภัยในหลายๆ จังหวัด

ศอส.สรุปรายงานน้ำท่วมในพืนที่ 14 จังหวัด กรมอุตุเตือน 10-12 กันยายนนี้ มรสุมพาดผ่าน ระวังน้ำป่าไหลหลากศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) รายงานสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 14 จังหวัด (จ.สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท อุบลราชธานี สิงห์บุรี นครปฐม สุพรรณบุรี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา และ จ.อุทัยธานี) 65 อำเภอ 483 ตำบล 2,942 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 186,045 ครัวเรือน 476,775 คน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 72 ราย

สำหรับสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนช่วงวันที่ 10-12 กันยายน 54 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาด เชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับ พลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชม. ฝนตกสูงสุดที่ อบต.บ่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ 126.5 มิลลิเมตร

ส่วนกรณีน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์ประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 3 จุด ได้แก่ รร.บ้านห้วยเดื่อ รร.บ้านต้นขนุน และวัดห้วยคอม ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด และได้ประสานหน่วยงานราชการที่มีเครื่องมือจักรกล เพื่อเข้าไปเปิดเส้นทางในพื้นที่วิกฤต เพื่อลำเลียงถุงยังชีพ เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด พร้อมทั้งได้จ่ายเงินช่วยเหลือบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง รวม 13 หลัง เป็นเงิน 390,000 บาท และค่าจัดการศพ 105,000 บาท แก่ทายาทผู้เสียชีวิต และได้แจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 1,100 ชุด

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

ซีอุย

ซีอุยที่โรงพยาบาลศิริราช

ประวัติของซีอุย
ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของซีอุย ฆาตรกรต่อเนื่องที่ฆ่าเด็กอย่างเหี้ยมโหด พร้อมกับควักหัวใจออกมาหิน  กลายเป็นตำนานที่สร้างความหวาดผวาให้กับสังคมไทยมาตลอด ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันก็ยังได้ยินเรื่องราวของซีอุยอยู่เรื่อยๆ และความโหดเหี้ยมของซีอุยนี้เอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกหยิบมา เล่าสู่กันฟัง
ซีอุย แซ่อึ้ง เกิดปีระกา 2470 เป็นชาวจีน บิดาชื่อนาย ฮุนฮ้อ มารดาชื่อนาง ไป่ติ้ง อาชีพทำไร่ฐานะยากจน มีพี่น้องหลายคน ตอนเด็กๆ มักถูกรังแก จนพบชายชราแนะนำให้กินตับ และหัวใจของคน เพื่อที่จะได้มีพลังต่อสู้กับคนที่มารังแก หลังจากนั้น ซีอุย เริ่มฆ่าสัตว์ กิน เนื้อสด ตับ หัวใจ พอซีอุยเริ่มเป็นหนุ่มก็เริ่มฆ่าเด็กแหวะอก เฉือนหัวใจและตับ มันทำให้เขารู้สึกว่ากล้าสู้ และ อร่อย โดยใช้วิธีการฆ่าฝังร่องรอย
เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ซีอุยถูกส่งเข้าประจำการที่หน่วยรบทหารราบกองพันที่ 8 ซีอุยฝึกและถูกส่งตัวไปรบในแนวหน้าจนได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารต่างก็ล้มตาย อาการบาดเจ็บและหิวโหยทำให้ซีอุยเริ่ม ต้ม ตับ ไต หัวใจ ไส้พุง ศพ เพื่อนทหารที่เสียชีวิตหลังจากสงครามเพื่อนทหารรุ่นเดียวกัน ชวนซีอุยไปสมัครเข้าทำงานกับ บริษัทเดินเรือทะเล ทำได้อยู่ปีเศษๆ เพื่อนๆ ก็ชวนลอบเข้าเมืองไทย โดยหลบหนีจากเรือเดินทะเล ขณะที่นำสินค้าส่งที่ท่าเรือคลองเตย เมื่อ วันที่ 28 ธันวาคม 2489
ในระหว่างที่ใช้ชีวิตในประเทศไทย เขาต้องเร่ร่อนทำงานรับจ้างกลับไปกลับมาในสถานที่ต่างๆ อาทิ อ. ทับสะแก และ อ. สามร้อยยอด และ กรุงเทพฯ ซึ่งชีวิตของเขาได้รับแรงกดดัน ถูกเหยียดหยามดูหมิ่นจากคนรอบข้าง ถูกเรารัดเอาเปรียบจนในที่สุดก็นำไปสู่เหตุการณ์ที่ต้องน่าสะพรึงกลัวและทำให้ซีอุยพบจุดจบอย่างน่าสงสารเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2502

ก่อนถูกจับได้
1.            วันที่ 10 เมษายน 2497 คดีแรกก็เกิดขึ้นเมื่อ ด.ญ.บังอร ภมรสุต อายุ 8 ขวบ ถูกคนร้ายดักจับขณะเดินออกมาซื้อของใน ตอนค่ำ ด.ญ.บังอร ซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกและรายเดียวที่รอดตายมาได้ ระบุว่าถูกคนร้ายเป็นชายชาวจีน ตัดผมสั้นเกรียน รูปร่างสันทัด จับตัวจากแถวบ้านเข้าไปในป่า พยายามใช้มีดแทงคอ แต่เธอดิ้นจนมีดพลาดไม่ถูกจุดสำคัญ จึงถูกคนร้ายจับทุ่มเข้าไปในกอไผ่ แม้กอไผ่จะทำให้เธอบาดเจ็บไม่เบา แต่มันก็ช่วยให้คนร้ายไม่สามารถแหวกพงหนามเข้ามาทำร้ายเธอได้อีก
2.            วันที่ 9 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ด.ญ.นิด แซ่ภู่ อายุ 10 ขวบ ถูกคนร้ายหลอกไปจากงานวัด ใน ต.ทับสะแก ก่อนมีคนพบศพเธอถูกฆ่าผ่าท้องหัวใจกับตับหายไป
3.            เดือนเศษๆ ต่อมา ด.ญ.ลิ้มเฮียง แซ่เล้า อายุ 9 ขวบ ชาว ต.ทับสะแก เช่นกัน ถูกฆ่าลักษณะเดียวกับรายที่ 2 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน
4.            ถัดมาวันที่ 27 ตุลาคม ปีเดียวกัน ก็ถึงคิว ด.ญ.หงั่น แซ่ลี้ อายุ 10 ขวบ ถูกฆ่าที่ ต.สามร้อยยอด
5.            วันที่ 28 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน คดีลักษณะเดียวกันนี้ก็มาโผล่ที่กรุงเทพฯ มื่อมีผู้พบศพ ด.ญ.ลี่จู แซ่ตั้ง อายุ 5 ขวบ ถูกฆ่าผ่าท้องบริเวณสถานีรถไฟสวนจิตรลดา
6.            ล่วงเข้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2500 ด.ญ.ซิ่วจู แซ่ตั้ง อายุ 7 ขวบ ถูกฆ่าบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์
7.            ฆาตกรต่อเนื่องหยุดการทำงานไปเกือบ 1 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรม ด.ช.สมบุญ บุณยกาญจน์ อายุ 8 ขวบ ที่ ต.เขาไผ่ อ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2501 ซึ่งเป็นเหยื่อรายที่ 7 และศพที่ 6 คดีนี้เองตำรวจจับกุมคนร้ายได้คือ นายซีอุย แซ่อึ้ง คนงานในสวนของพ่อแม่ ด.ช.สมบุญ โดยตำรวจระบุในห้วงเวลานั้นว่าจับได้ ขณะที่ซีอุยพยายามทำลายศพ
              นี่คือข่าวครึกโครมยิ่งในช่วงนั้น และยิ่งตื่นตระหนกกันใหญ่เมื่อตำรวจแถลงว่านายซีอุย สารภาพว่าคดีฆ่าผ่าท้องเด็กที่ ต.ทับสะแก กรุงเทพฯ และนครปฐมรวม 5 รายก่อนหน้านี้ เป็นฝีมือของเขาเอง และเมื่อตำรวจพา ด.ญ.บังอร เหยื่อแรกแรกที่รอดตายมาได้มาดูตัว ก็ชี้ยืนยันว่าซีอุย คือคนร้ายที่พยายามสังหารเธอ
วันที่ 16 กันยายน 2502 ศาลตัดสินประหารชีวิตซีอุยด้วยการยิงเป้า และมอบศพให้แพทย์ ร.พ.ศิริราช นำไปศึกษาโครงสร้างทางสมอง และเก็บรักษาศพไว้จนทุกวันนี้
ในหลายสิบปีให้หลังมีผู้สนใจเรื่องราววิปริตของซีอุย พยายามค้นคว้าและพบว่าคดีนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลไม่น้อยถึงขนาดตั้งข้อสังเกตว่าซีอุยเป็นฆาตกรวิปริต หรือแค่แพะรับบาปเท่านั้น
สภาพศพที่เป็นเหยื่อ
ประการหนึ่ง ซีอุยเป็นผู้รับสารภาพเองว่าเป็นฆาตกร ในขณะที่ตำรวจเองไม่มีหลักฐานใดๆ มัดตัวคนร้าย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ปล่อยซีอุยลอยนวลอยู่นานหลายปีการที่ตำรวจคลี่คลายคดีเก่าๆ ได้ มีหลักฐานเดียวคือคำสารภาพของซีอุยเท่านั้น
น่าสนใจว่าซีอุยพูดไทยไม่ได้มาก ต้องให้การผ่านล่าม คำแปลและความเข้าใจของซีอุยเกี่ยวกับความผิดหรือคำสารภาพนั้นมีมากขนาดไหน มีการตั้งข้อสังเกตว่าซีอุยอาจจะสารภาพไปตามบท เพราะเข้าใจว่าเมื่อจบเรื่อง ตัวเองจะถูกส่งกลับเมืองจีนเท่านั้น
จากข่าวในห้วงเวลานั้นพบว่าคำรับสารภาพของซีอุยก็สับสน และบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเกิดเหตุอีกด้วย
ในจำนวน 6 ศพที่ซีอุยก่อเหตุ มีบางศพที่ไม่ได้ถูกควักหัวใจและตับออกมากิน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การฆ่าอย่างสิ้นเชิง ตำรวจแถลงว่าที่ไม่กินเพราะซีอุยบอกว่า ตับกับหัวใจเล็กเกินไป กินไม่อิ่มเลยไม่กิน ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวซีอุย ไปทำแผนฯ บางคดีพิสดารและเหลื่อเชื่อเกินไป เช่น รายหนึ่งซีอุยให้การว่าฆ่าเด็กแล้วอุ้มวิ่งเข้าไปในสวนลึกหลายกิโล แถมยังแวะอาบน้ำอาบท่าระหว่างทางอีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวผิดวิสัยเกินไป
อีกจุดหนึ่งคือการลงมือระหว่างเหยื่อรายที่ 6 และรายที่ 7 ที่ทิ้งช่วงเวลาห่างกันถึง 1 ปี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซีอุยก่อเหตุถึง 6 คดีในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้นหรือคดีที่ ต.ทับสะแก ซึ่งซีอุยสารภาพว่าลงมือถึง 4 ครั้ง รายแรกทำไม่สำเร็จ แต่ก็ลงมือได้ในอีก 3 รายต่อมา
ตามปกติทั่วไปเมื่อก่อเหตุครั้งแรกไม่สำเร็จ ซีอุยน่าจะหลบหนีเพราะเด็กต้องจำหน้าได้ กลับกล้าอยู่ในพื้นที่เดิมและลงมือกับเหยื่ออีก 3 รายซ้อน ฯลฯ แม้มีการตั้งข้อสังเกตหรือข้อสงสัยมากมาย แต่อย่างไรเสียคงไม่สามารถหาข้อยุติหรือตรวจสอบให้แน่ชัดได้แต่ก็น่าสนใจว่าหลังตำรวจจับกุมซีอุยได้ คดีฆ่าผ่าท้องเด็กก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย หรือพอโดนจับได้ ฆาตกรตัวจริงเลยไม่กล้าทำ

ภาพน้องหมาที่ร้านครัวตายาย

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เหตุการณ์เลื่อนไหวในแต่ละวัน และพร้อมด้วยเหตุการณ์ที่น่าสน


ชีวิตที่นั่งทำงานไปดื่มไป (ดื่มน้ำคะ)



ชีวิตที่แสนเหนื่อย ในการทำงานที่ผ่านมามีทั้งประสบการณ์ที่สำเร็จ และผิดพลาด ไม่ว่าใครจะได้รับหรือไม่ได้รับ ทั้งความสำเร็จและความผิดพลาดเลยนั้น นั้นคือคนไม่ทำงาน ดังนั้นอย่ากลัวคำว่า พลาด
         แล้วตรงไหนที่เราเรียกว่า ประสบความสำเร็จ แล้วตรงไหนที่เรียกว่า ผิดพลาด ในการสร้างชีวิตที่ตั้งใจในการทำงานแล้วท่านพลาดนั้นเป็นการที่ท่านทำแล้ว แต่มันไม่ใช่โอกาสของเราเอง ทุกอย่างเลยไม่ได้อย่างเป้าหมาย ปลอบใจตัวเองแล้วหาทางแก้ไขใหม่ และอย่าคาดหวังให้ใครคนอื่นเข้ามาช่วย เพราะนั้นอาจเป็นการผิดหวังซ้ำสองได้ ถ้าช่วยก็ขอเพียงคำแนะนำ และเรานำมาวิเคราะห์ เพื่อดำเนินแนวในการเดินชีวิตใหม่
       เลยแอบไปหยิบกลอนของเขามานะ จะเล่าให้ฟังนะ จะได้พอมีกำลังใจกันบ้างนะ เขาเล่าว่า

 "เกิดเป็นคนทนอยู่ สู้ชีวิต

ฟ้าลิขิตให้เกิดมา น่าสงสาร

บางคนรวยบางคนจน ทนอีกนาน

สู้เท่านั้นชีวิตคน ทนต่อไป


หากว่าท่านเกิดมา ฟ้าลงโทษ

ไม่ต้องโกรธต่อว่า ใครที่ไหน

มันอยู่ที่ตัวของเรา ต้องเข้าใจ

อยู่ที่ไหนไม่ว่ากัน มันคือกรรม


ให้เราคิดเสียว่า ต้องดีแน่

คิดถึงแม่และพ่อ ท่านห่วงหา

หัวอกลูกอย่างเรา เลือดเข้าตา

คิดเสียว่าสักวัน ฝันเป็นจริง


งั้นเรามาสร้างฝัน กันดีกว่า

ลุกขึ้นมาต่อสู้ ไม่เกรงขาม

แม้วันนี้มีอะไร มันไม่งาม

จะก้าวข้ามต่อไป ใจมั่นคง


ในอดีตคิดเสียว่า ผ่านไปแล้ว

เหมือนขวดแก้วแวววาว และสดใส

ฟ้าหลังฝนดลสิ่งดี ทุกทีไป

ก็ขอให้เกิดสิ่งดี มีทุกวัน"
ขอบคุณ:Bangna 007
  จาก http://www.baanmaha.com/community/thread22378.html

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทำรายงานนะ (เพิ่มเติม)

หนูตั้งใจทำงานนะ
มีเสียงเพลงบ้าง บางเวลา
เป็นงัย หละ
นางแบบฮะ

หาข้อมูลไม่เจอ ร้องไห้เลย


เล่นแบบหนูเป็นป่าว
น่ารักมะ

ครึ่งหนึ่งของสี่เหลี่ยม เจ้จัดให้

โฆษณาให้เจ้าของสถานที่เขา นิส...หนึ่ง


รักดนตรีคะ
เพื่อนกันนะ



น้ำท่วม

รถเข้าบ้านไม่ได้
"สภาพอากาศ ฝนฟ้าไม่เคยเป็นใจไม่รู้เป็นไง" ชาวบ้านเขาบ่นมาให้ได้ยิน ต้องทำใจกันอีกนานเลยหละ เพราะสภาพอากาศ ทั่วโลกตอนนี้ล้วนมีความปรวนแปร ขนาดสภาพอากาศวันนี้ จากกรมอุตุยังบอกเลยว่า
ลุงต้องจอดเลยนะ
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู นครราชสีมา ขอนแก่น ระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากภาวะ ฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรงโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ 1-3 วันนี้ จาก  http://www.tmd.go.th/thailand.php  ในอนาคตความปรวนแปรของสภาพอากาศจะมากขึ้นหรือลดลงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว
ท่วมถนนริมน้ำวัง (ลำปาง)

แล้วเขายังเตือนมาอีกว่า
ในช่วงวันที่ 25-28 ส.ค. ร่องมรสุมผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมาก และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 29-31 ส.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ในระยะนี้

ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 26-29 ส.ค. ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง